เพราะความรวยไม่ใช่เรื่องของความบังเอิญ
 

หลายคนอาจเชื่อว่าความรวยเป็นเรื่องของความบังเอิญ เพราะว่าเขาเหล่านั้นเพียงแค่อ่านพาดหัวข่าวตามสำนักข่าวหรือสื่อSocial ต่างๆ แล้วจดจำว่า ทุกๆ ครึ่งเดือนจะมีชาวบ้านทั่วไปเปลี่ยนสถานะเป็นคนรวยได้อย่างทันทีทันใดเพียงแค่ถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่ 1

หลายคนบอกว่า อย่างนี้ไม่เรียกว่าบังเอิญแล้วจะเรียกว่าอะไร เพราะขนาดตัวเองทำงานเหนื่อยสายตัวแทบขาดแต่ก็ยังไม่รวยสักที
 

ถ้าหากจะเชื่อว่าความรวยเกิดขึ้นจากความบังเอิญ แล้วปล่อยชีวิตไปตามโชคชะตา แล้วแต่ฟ้าหรือวาสนาจะกำหนด
 

อยากจะบอกว่า ลองคิดทบทวนให้ดีๆ อีกสักรอบ
 

อย่าลืมว่า ล็อตเตอรี่ที่ออกมาในแต่ละงวดแต่ละชุดมีทั้งหมด 1 ล้านฉบับ นั่นแปลว่าโอกาสที่เราจะได้รับรางวัลที่ 1 มีเพียงแค่ 1 ในล้านเท่านั้น
 

ถ้าหากเชื่อว่าจะมีการบังเอิญได้ ด้วยโอกาสอันแสนน้อยนิดดังกล่าว ก็คงต้องบอกว่า รอชาติหน้าตอนบ่ายๆ จะดีกว่าไหมครับ
 

สำหรับคนไทยเราที่เป็นชาวพุทธ หลายคนคงเคยได้ยินกับพุทธภาษิตที่ว่า กมฺมุนา วตฺตตี โลโก (สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม)
 

พระพุทธองค์ทรงสอนเหล่าพุทธบริษัทเสมอว่ากรรมหรือผลใดๆที่เกิดขึ้นนั้นย่อมต้องมาจากเหตุ ถ้าคุณสร้างเหตุที่ดีย่อมส่งผลที่ดี

นั่นหมายความว่า คนโชคดีทุกๆ 2 สัปดาห์ดังกล่าวอาจเคยสร้างเหตุแห่งการได้รับรางวัลที่ 1 มาแล้วในอดีต เพียงแต่ว่าอดีตนั้นอาจอยู่ไกลเกินกว่าที่เราจะเห็นหรือจำได้ก็เป็นได้นะครับ
 

แล้ววันนี้เราได้สร้างเหตุของความรวยกันแล้วหรือยัง
 

เริ่มต้นถ้าอยากรวย ก็ต้องรู้จักทำมาหากิน ออกแรงทำงานหาเงินมาให้ได้เสียก่อน

ทำงานที่สุจริตด้วยความขยันหมั่นเพียร มุ่งมั่น รับผิดชอบ และพยายามสร้างความเชี่ยวชาญความชำนาญในงานที่ทำ เพื่อทำให้เราเป็นคนที่องค์กรขาดไม่ได้

เหตุดังกล่าวย่อมทำให้เราได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นแน่นอน

ถ้าย่อท้อกับงานที่ทำ ลองนึกถึงเวลาเราปอกมะพร้าวดูนะครับ มะพร้าวนั้นอาจมีเปลือกที่หนาและแข็ง หากเราปอกยังไม่ถึงเนื้อ แล้วเลิกกลางคัน เราก็จะไม่มีวันได้ทานเนื้อมะพร้าวและน้ำอันหอมหวาน
 

เมื่อได้เงินจากการทำงาน ก็ต้องรู้จักใช้จ่ายให้เหมาะสมกับฐานะ ไม่ฟุ่มเฟือยจนเกินตัว แต่ก็ไม่ตระหนี่ถี่เหนียวจนเป็นเหตุให้ต้องลำบากกาย หรือลำบากใจ

อย่างน้อยๆ ก็พยายามวางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้าให้น้อยกว่ารายรับ
 

หลังจากนั้นจึงค่อยปล่อยให้เงินทำงานอีกแรง นั่นก็คือให้นำเงินที่ได้จากการทำงานหลังจากหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นไปลงทุนให้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น รวมทั้งต้องรู้จักบริหารความเสี่ยงความไม่แน่นอนด้วยการทำประกันภัย ประกันสุขภาพ และประกันชีวิต เพื่อไม่ให้เงินทองที่หามาได้ต้องสูญเสียไปกับเหตุที่ไม่คาดฝัน แต่คนเราก็ไม่ได้รู้ไปทุกเรื่อง

บางคนอาจจะเชี่ยวชาญในงานที่ทำ แต่ไม่มีความรู้ในเรื่องของการเงิน ไม่รู้ว่าจะต้องลงทุนอย่างไร หรือทำประกันอย่างไร
 

บางครั้งความรวยก็อาจต้องอาศัยผู้นำทาง เราอาจต้องทำความรู้จักกับคนที่มีความรู้ทางการเงิน เพื่อจะได้ขอรับคำปรึกษาทางการเงินที่เหมาะสม จะได้ขึ้นบันไดเลื่อนสู่ความร่ำรวยอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินคนดังกล่าวก็ต้องเป็นคนดีด้วยนะครับ ไม่อย่างนั้นก็อาจทให้ถูกหลอกได้เช่นกัน นอกจากนั้นการคบเพื่อนที่เป็นคนไม่ดี ยังส่งผลทำให้อาจชักชวนกันไปในทางที่เสียหาย เช่น ชวนไปเที่ยวสำมะเลเทเมา เล่นการพนัน ทำให้เสียงานเสียการ เสียเงินเสียทอง

เห็นไหมครับว่า ความรวยไม่ใช่ความบังเอิญ แต่เกิดจากเหตุที่เราสร้างขึ้นได้ในปัจจุบัน ที่สำคัญคือ เราต้องรู้จักพอ เพราะตราบใดที่เรายังไม่รู้จักพอ เราก็จะไม่มีวันรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนรวย ถ้าทำได้รับรองว่า พรุ่งนี้คุณจะเป็นคนที่รวยกว่าวันนี้อย่างแน่นอน